สำหรับเพื่อนหลายๆ คนที่กำลังมองหา สีทาไม้ เพื่อนำไปใช้ทาไม้ในบ้านให้ออกมาดูสวยงาม และกำลังงงว่า ทำไมสีงานไม้ถึงมีหลากหลายประเภท หลากหลายรุ่น แล้วใช้แบบเดียวทาทุกอย่างไม่ได้เพราะว่ามันก็ใสๆ เหมือนกันหมด แต่จริงๆแล้วมันมีข้อแตกอย่างกันอย่างไร และ แต่ละส่วนของบ้าน เช่น ภายใน ภายนอก หรือแม้กระทั้ง พื้น ผนัง ก็ต้องใช้สีที่แตกต่างกันออกไปยังไง บอกได้เลยว่าสีทาไม้ แต่ละประเภทจะมี ความทนทานต่อสิ่งต่างๆ ที่ไม่เมือนกัน ถ้าเราใช้งานผิดประเภทอาจจะทำให้ สีที่ทาลงไปแตกร้าว ไม่สวยงาม และ มีปัญหาอื่นๆตามมา วันนี้ช่างช้างจะมาเล่าให้ฟังครับว่าสีทาไม้ แต่ละประเภทมีหน้าที่อะไรบ้าง และเลือกยังไงให้เหมาะกับงานของคุณ
สีงานไม้ มีประเภท?
สีงานไม้หลักๆแล้วจะมีอยู่หลายประเภทและยิบย่อยมากๆ ซึ่งในวันนี้เราจะมาพูดถึงภาพรวมง่ายๆให้เข้าใจแต่ละประเภทที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในปัจจุบันอย่าง ยูรีเทน สีย้อมไม้ สีทาไม้ทึบแสง และ แลคเกอร์
ยูรีเทน
สีทาไม้ ยูรีเทนจะมีฟิล์มสีใส และเงางามที่มาพร้อมกับ ความหนา และแข็ง สามารถทนทานต่อการเสียดสี-ขูดขีด และการเหยียบย่ำได้ดี จึงเหมาะสำหรับนำมาทาเคลือบพื้นไม้ พื้นปาร์เก้ หรือเฟอร์นิเจอร์ แต่จะแพ้แสงแดด และฝน เพราะไม้จะยืดและหดตัว หรือเรียกง่ายๆว่าบิดตัว ทำให้ฟิล์มที่หนาและแข็ง แตกร้าวได้เนื่องจากมีความยืดหยุ่นน้อยมากๆถ้าเทียบกับสีย้อมไม้ การเลือกซื้อยูรีเทนเราจะต้องเลือกระหว่าง ยูรีเทน ส่วนเดียว (1K) กับ ยูรีเทน 2 ส่วน (2K) ซึ่งจะม่ความแตกต่างกันด้วยความทนทาน เงางาม และ ระยะเวลาการแห้งของ สีทาไม้
- ยูรีเทน ส่วนเดียว (1K) – เป็นระบบแบบดั้งเดิมต้องผสมทินเนอร์ก่อนจึงจะนำไปทา แห้งเร็ว ใช้งานง่าย แต่ความทนทานจะน้อยกว่า ยูรีเทนแบบ 2 ส่วน
- ยูรีเทน 2 ส่วน (2K) – เป็นระบบแบบใหม่ที่ ต้องผสมสี 2 ส่วน ตามสัดส่วนที่กำหนดไว้ เข้าด้วยกันก่อนจึงนำไปทา แห้งช้ากว่า แต่ทนทาน และเงามากกว่า แบบส่วนเดียว มีราคาที่แพงกว่า
ตัวอย่างยี้ห้อ และรุ่นมีดังนี้
- ยูรีเทน ส่วนเดียว (1K)
- TOA Polyurethane T3000
- Beger Unithane U-404 / U-202
- Shark Polyurethane
- ยูรีเทน 2 ส่วน (2K)
- TOA 2K Polyurethane T-8100 / T-8111
- Beger Polyurethane 2K Supreme
สีย้อมไม้ หรือวูดสเตน
สีย้อมไม้ เป็น สีทาไม้ ที่ใช้ในการโชว์ลายไม้ให้มีสีที่สวยงามมากยิ่งขึ้น เนื้อสีจะบางซึมลึกเข้าเนื้อไม้ แต่ไม่สามารถทนการขีดข่วนได้ดีเท่ายูรีเทน ช่วยปกป้องไม้ยืดอายุการใช้งานของไม้ได้ดี อีกทั้งยังสามารถทำให้ไม้ที่ดูเก่าและโทรมกลับมาดูมีสีสันที่สวยงานเหมือนใหม่ได้อีกครั้ง สีชนิดนี้มีความยืดหยุ่นสูงทำให้เวลาตัวไม้บิดตัวฟิล์มจะไม่แตกเหมือนกับยูรีเทน จึงเหมาะสำหรับการนำมาทาไม้ภายนอกที่เป็นแนวตั้งเช่น ผนัง ประตู หน้าต่าง ระแนง หรือ ระเบียง เป็นต้น แต่ไม่เหมาะกับนำมาทาพื้นที่แนวราบอย่างพื้นเพราะว่าจะไม่ทนการเหยียบย่ำและจะมีความรู้สึกเหนียวเท้าเวลาเดิน จึงควรใช้สีย้อมไม้สำหรับทาพื้นโดยเฉพาะ สีย้อมไม้มี 2 สูตร สูตรน้ำ และ สูตรน้ำมัน ช่างช้างจะมาบอกความแตกต่างให้ดังนี้
- สีย้อมไม้ สูตรน้ำ – ทำมาจากอคริลิกเรซิ่น กลิ่นอ่อน แห้งเร็ว เหมาะสำหรับการทาภายในบ้านที่ต้องการจะใช้งานเลยโดยที่ไม่ต้องเหม็นสี
- สีย้อมไม้ สูตรน้ำมัน – ทำมาจากแอลคีดเรซิ่น กลิ่นแรง เหมาะสำหรับงานภายนอกที่ต้องการความทนทานต่อทุกสภาพอากาศ เช่น แสงแดด ลม และฝน ได้อย่างดีเยี่ยม
ตัวอย่างยี้ห้อ และรุ่นมีดังนี้
- สีย้อมไม้ สูตรน้ำ
- Beger Aqua WoodStain
- TOA WoodStain Waterborne
- สีย้อมไม้ สูตรน้ำมัน
- Beger WoodStain Supreme
- TOA WoodStain
- SHARK WoodStain
สีทาไม้ทึบแสง หรือสีปิดลายไม้
สีทาไม้เป็น สีทาไม้ ที่ทึบแสงทำให้ทาแล้วจะไม่เห็นลายไม้ แล้วจะเป็นฟิล์มที่หนา และมีสีต่างๆ ให้เลือกมากมาย โดยส่วนมากแล้วสีประเภทนี้จะมีกลิ่นที่แรงทั้งขณะที่ทาและหลังทา เนื้อสีหลังทาแล้วจะแห้งช้า ประมาณ 6 – 8ชม. เลยทีเดียว สีประเภทนี้ใช้ได้ทั้งทาไม้และทาเหล็ก จึงเหมาะสำหรับการทาเพื่อปกปิดเนื้อไม้ และต้องการให้มีสีสันต่างๆ ใช้ได้ทั้งภายในและภายนอก ทนทานต่อสภาพอากาศได้เป็นอย่างดี
ตัวอย่างยี้ห้อ และรุ่นมีดัวนี้
- TOA SuperShield TimberShield
- TOA Fibercement Shield
- Beger ColorShield
- Beger Wood Guard
แลคเกอร์
แลคเกอร์ใช้สำหรับสำหรับทาเคลือบผิวเพื่อรักษาเนื้อไม้ทำมาจากเรซินซึ่งก็จะมีการผสมอย่างอื่นเข้าไปด้วยแล้วแต่ยี่ห้อและรุ่น มีตั้งแบบใส และแบบทึบแสง ทนทานต่อการขีดข่วน กันน้ำและทำความสะอาดได้ง่ายมาก จะใช้การทาหรือพ่นก็ได้จึงเหมาะสำหรับการใช้กับเฟอร์นิเจอร์ภายใน เช่นโต๊ะ เก้าอี้ ตู้ หรือ งานบิวต์อินไม้ต่างๆ ข้อแตกต่างจากยูรีเทนก็คือ แลคเกอร์จะแห้งเร็วกว่าฟิล์มบางกว่า ทำให้ไม่ทนทานเท่ายูรีเทนซึ่งมีเนื้อฟิล์มที่หนากว่า และแข็งกว่า
ตัวอย่างยี้ห้อ และรุ่นมีดังนี้
- TOA Lacquer
- TOA Industrial Lacquer
- Beger Lacquer
- Beger Industrial Lacquer
- Shark Clear Lacquer
สีทาไม้ ใช้อะไรทาดีละ?
สำหรับ สีทาไม้ แล้วเราควรที่จะเลือกอุปกรณ์ทาสีที่มีคุณภาพด้วยเช่นกัน เพราะจะทำให้เราทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและงานออกมาสวยงาม โดยส่วนใหญ่แล้วจะใช้ เครื่องพ่นสี หรือ แปรงขนกระต่าย เพื่อความเรียบเนียนสูงสุด อุปกรณ์ที่ดีทาแล้วต้องเรียบเนียนฟิล์มสีต้องสม่ำเสมอไม่หนาจนเกินไป และสีไม่เยิ้ม ครับ
สำหรับพื้นที่กว้างๆเช่น ระแนง หรือ พื้นไม้ ช่างช้างแนะนำลูกกลิ้งงานไม้ โซมิค Wood Roll ครับ ทำให้ทาได้พื้นที่มากขึ้นประหยัดเวลา ลูกกลิ้ง โซมิค Wood Roll ผลิตมาจากเส้นใยที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ สำหรับงานไม้โดยเฉพาะ ทำให้ปล่อยสีได้บางและสม่ำเสมอ โดยการกลิ้งลงไปเบาๆ ทำให้สีแทรกซึมได้งายเรียบเนียน สีไม่เยิ้ม หรือเป็นเม็ดฟอง เป็นลูกกลิ้งขนาด 4นิ้ว กับความยาวด้าม 12นิ้ว ครับ
เป็นยังไงกันบ้างครับหลายสงสัยกันบ้างมั้ย ช่างช้างหวังว่าเรื่องนี้จะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยให้กับเพื่อนๆหลายๆคนที่กำลังจะมีโปรเจคเกี่ยวกับงานไม้นะครับ สุดท้ายนี้ช่างช้างก็อยากจะฝาก เครื่องมือทาสี โซมิค ที่มีคุณภาพ และคุ้มค่า ไว้ด้วยนะครับ ขอบคุณทุกๆคนที่ได้กดเข้ามาอ่านมากๆครับ