วิธีคำนวณสีทาบ้าน ให้เหมาะสมกับพื้นที่

สำหรับใครที่อยากทาสีบ้านเองหรือกำลังมีไอเดียทาสีห้องอยู่ แต่ยังไม่รู้ว่าจะต้องใช้สีปริมาณเท่าไหร่ให้พอดีกับพื้นที่ห้องของตนเอง โดยไม่ต้องคอยกังวลว่าสีจะขาดหรือเกินและเสียเวลาไปซื้อสีทาบ้านใหม่อยู่หลายรอบ ซึ่งวิธีการแก้ไขปัญหาทาสีบ้านแล้วสีไม่พอใช้หรือซื้อมาเตรียมไว้ก็ดันใช้ไม่หมดก็คือ วิธีคำนวณสีทาบ้าน ซึ่งสามารถทำได้ง่ายๆ แถมยังกะปริมาณของสีที่ต้องการใช้ได้ใกล้เคียงความจริงมากที่สุดอีกด้วย พร้อมแล้วมาดูกันเลย!

รู้จักขนาดบรรจุสีทาบ้าน

ก่อนคำนวณสีทาบ้าน มาทำความรู้จักหน่วยของสีกันก่อน โดยทั่วไปจะเรียกหน่วยเป็นแกลลอน ซึ่งจะเท่ากับ 3.785 ลิตร แบ่งได้เป็น 4 ขนาด ได้แก่

1 /4 แกลอน ( 0.946 ลิตร)
1 แกลอน (3.785 ลิตร)
2.5 แกลอน (9.46 ลิตร)
5 แกลอน (18.925 ลิตร)

ซึ่งโดยปกติแล้วสี 1 แกลลอน (ปริมาณ 3.785 ลิตร) จะทาได้ประมาณ 25-30 ตารางเมตร (ต่อ 1 รอบ) ซึ่งงานทาสีนั้นจะต้องทาประมาณ 2 รอบ เพื่อให้ได้สีบ้านสวยเรียบเนียนที่สุด

รู้จักสิ่งที่จะใช้คำนวณสีทาบ้าน

ขนาดความกว้าง x ยาว x ความสูงของพื้นที่
ขนาดความยาว x ความสูงของบริเวณที่ไม่ต้องการทาสี เช่น ประตู หน้าต่าง
ประเภทของสีที่ต้องการทา (ทากี่รอบ)
ปริมาณพื้นที่ (ตร.ม.) ที่กำหนดไว้บนบรรจุภัณฑ์

เริ่มการคำนวณสีทาบ้าน

วิธีคำนวณสีทาบ้าน เริ่มจากการใช้ตลับเมตรวัดขนาดห้อง โดยวัดทุกด้านที่ต้องการทาสี จากนั้นนำพื้นที่ทั้ง 4 ด้านมารวมกัน เช่น

ขนาดความกว้าง x ยาว x สูงของพื้นที่ 5 x 5 x 2 = 50 ตารางเมตร
ขนาดความยาว x สูงของพื้นที่ที่ไม่ต้องการทาสี 2 x 3 = 6 ตารางเมตร
ประเภทของสีที่ต้องการทา = 2 รอบ
ปริมาณพื้นที่ (ตร.ม.) ที่กำหนดไว้บนบรรจุภัณฑ์ เช่น 25 ตร.ม. / กล. / รอบ

จะได้ พื้นที่ทาสี 50-6 = 44 ตารางเมตร นำ 44/25 และ x 2 รอบ จะได้ประมาณ 3.5 แกลลอน หมายความว่าจะใช้สี 3.5 แกลลอน ทาได้ในพื้นที่ 44 ตารางเมตรนั่นเอง

พิจารณาปัจจัยอื่นๆ

นอกจากการคำนวณสีทาบ้านแล้ว ปริมาณสีทาบ้านที่ต้องใช้ยังขึ้นอยู่กับขนาดของลูกกลิ้งทาสีด้วย ดังนั้นจึงต้องเลือกขนาดลูกกลิ้งทาสีให้เหมาะกับพื้นที่บริเวณด้วย หากต้องการทาสีในพื้นที่กว้าง ควรใช้ ลูกกลิ้งทาสีขนาด 10 หรือ 7 นิ้ว จะช่วยให้ทาสีบ้านได้เร็วและงานเสร็จไวขึ้น แต่ถ้าหากต้องการทาสีบ้านในจุดเล็กๆ ที่เป็นซอกมุม ควรใช้ลูกกลิ้งขนาด 4 นิ้ว แบบ Slim หรือ ขนาด 1.5 นิ้ว ตามความเหมาะสม เพราะขนาดของลูกกลิ้งทาสีจะดูดซับสีทาบ้านในปริมาณได้แตกต่างกัน นอกจากนี้ถ้าหากพื้นผิวมีความเรียบอยู่แล้ว ควรใช้ลูกกลิ้งขนสั้นจะได้ฟิล์มสีที่มีลักษณะบาง เรียบเนียนและประหยัดสีมากกว่า แต่ถ้าหากพื้นผิวมีความขรุขระ ควรใช้ลูกกลิ้งทาสีแบบขนยาว เพราะมีคุณสมบัติอุ้มสีได้ดีและได้ฟิล์มสีที่หนาขึ้นจึงอาจจะต้องเพิ่มปริมาณสีที่ใช้ทาด้วย

จะเห็นได้ว่า งานทาสีบ้านไม่ได้ใช้เพียงการคำนวณสีทาบ้านเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมไปถึงประเภทของสีที่ใช้ทา ขนาดและประเภทของลูกกลิ้งทาสีร่วมด้วย และที่สำคัญคือคุณภาพของลูกกลิ้งทาสีเพราะถ้าหากเลือกลูกกลิ้งที่ไม่ได้มาตรฐาน อาจทำให้งานทาสีมีจุดบกพร่องและข้อผิดพลาดได้แม้จะเป็นช่างทาสีที่มีความชำนาญก็ตาม เช่น สีทาบ้านเป็นคราบไม่สม่ำเสมอ สีเป็นจ้ำ หรือมีเศษขนของลูกกลิ้งติดมาด้วย

ดังนั้น จึงจำเป็นต้องเลือกลูกกลิ้งทาสีที่มีคุณภาพและเหมาะสมกับการใช้งาน อาทิ ลูกกลิ้งทาสี SOMIC ที่มีทั้งแบบ 2in1 ที่เหมาะสำหรับทาภายในและภายนอกอาคาร ลูกกลิ้ง Wood Roll สำหรับทาสีย้อมไม้ ลูกกลิ้งเคมีสำหรับงานทาสีโครงสร้างหรือเครื่องจักร ลูกกลิ้งฟองน้ำที่ใช้ได้กับสี High Gloss หรือลูกกลิ้ง Epoxy สำหรับทาพื้นโรงงาน ลานจอดรถหรือสนามกีฬา เป็นต้น ซึ่งจะช่วยให้งานทาสีมีคุณภาพมายิ่งขึ้น